ปัจจุบันการใช้งานเว็บไซต์สำเร็จรูปเป็นแนวทางที่น่าสนใจของคนทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่ง WordPress คืออีกเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงมาก ด้วยความสะดวก ใช้งานง่าย ไปจนถึงมีบริการรับทำเว็บไซต์สำเร็จรูปครบวงจรที่พร้อมดูแลคุณด้วยการใช้เครื่องมือตัวนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อมีเว็บไซต์แล้วก็ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการทำ SEO เพื่อหวังผลักดันให้เว็บติดอันดับหน้าแรกของ Google ตามคีย์เวิร์ดที่กำหนดไว้ นี่จึงอาจเป็นข้อสงสัยว่าการทำเว็บไซต์ WordPress มีส่วนช่วยทำอันดับ SEO ให้ดีขึ้นได้จริงหรือไม่ เราจะมาหาคำตอบกัน โดย บริษัท รับทำเว็บไซต์ WordPress
การทำเว็บไซต์ WordPress ช่วยทำอันดับ SEO ดีขึ้นจริงไหม?
ต้องขออธิบายก่อนว่าการทำ SEO คือ รูปแบบของการทำอันดับเว็บไซต์ของคุณให้ขึ้นไปอยู่บหน้าแรกของเว็บ Search Engine ซึ่งในเมืองไทยก็คือ Google ปกติแล้วปัจจัยที่มักทำให้เว็บไซต์นั้น ๆ ประสบความสำเร็จเมื่อทำ SEO ก็มีด้วยกันหลายด้านโดยเหมารวมแบบเข้าใจง่ายมันคือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Google ที่ระบุเอาไว้ เช่น การแต่งหน้าเว็บให้น่าสนใจ การเขียนบทความตามหลัก SEO การมี Backlink เป็นต้น
ตรงจุดนี้เองทาง Google หรือเว็บ Search Engine เขาไม่ได้มองว่าคุณสร้างเว็บขึ้นมาด้วยวิธีไหน เครื่องมืออะไร แต่เขามักประเมินในเรื่องคุณสมบัติของเว็บดังกล่าวสอดคล้องกับข้อกำหนดที่ระบุมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามการทำเว็บไซต์ WordPress มักได้เปรียบเมื่อต้องทำ SEO มากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ ในหลายด้านที่คุณอาจไม่เคยรู้
ข้อได้เปรียบด้าน SEO เมื่อทำเว็บไซต์ด้วย WordPress
แม้ Google ไม่ได้สนใจเรื่องเครื่องมือที่คุณใช้ทำเว็บไซต์ แต่ข้อได้เปรียบหากเลือกเว็บสำเร็จรูปอย่าง WordPress นั่นคือจะมีสิ่งที่เรียกว่า Plug-in ซึ่งทาง WordPress ได้พัฒนาปลั๊กอินต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อสร้างความสะดวกและผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจต่อการทำเว็บไซต์ และปลั๊กอิน SEO บน WordPress ก็พร้อมเป็นผู้ช่วยในการทำอันดับเว็บให้ติดหน้าแรกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เช่น การใช้ปลั๊กอินยอดฮิตอย่าง Yoast SEO เป็นต้น
นอกจากเรื่องของปลั๊กอินแล้ว การทำเว็บไซต์ WordPress ยังมีข้อได้เปรียบสำหรับทำ SEO ในอีกหลายด้านไม่ว่าจะเป็น
- มีธีมที่ถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างเหมาะสมกับการทำ SEO
- มีระบบ Page Builder ช่วยจัด Layout และการปรับแต่งรายละเอียดต่าง ๆ เช่น H1, H2, Tag HTML ได้อย่างอิสระ
- ตัว WordPress มีความ Mobile Friendly ซึ่งเป็นข้อกำหนดหนึ่งที่ Google ให้คะแนนในการทำ SEO
- สามารถแก้ไข Slug URL หรือ Permalink ให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการทำ SEO ได้
- มีปลั๊กอินอื่น ๆ ให้การสนับสนุน เช่น การแชร์บนสื่อ Social การเพิ่มความเร็วเว็บ เป็นต้น
1. WordPress ออกแบบมาให้รองรับ SEO ตั้งแต่ต้น
WordPress ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำ SEO ได้ดีโดยธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่าเครื่องมือในการปรับแต่ง SEO อย่างการตั้งค่า Meta tags, title tags, URL ที่อ่านง่าย และการสร้าง sitemap สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านปลั๊กอินหรือเครื่องมือในตัวของ WordPress
2. ปลั๊กอิน SEO ช่วยปรับแต่งได้อย่างอิสระ
หนึ่งในข้อได้เปรียบของ WordPress คือการมีปลั๊กอิน SEO ที่ใช้งานง่าย เช่น Yoast SEO และ Rank Math ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับปรุงการจัดอันดับของเว็บไซต์ได้ด้วยการปรับแต่งตั้งแต่หัวข้อ บทความ เนื้อหา ไปจนถึงโครงสร้างของเว็บไซต์ ปลั๊กอินเหล่านี้ยังช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดและการใช้ Meta tags อย่างเหมาะสมอีกด้วย
3. การจัดการเนื้อหาได้ง่ายและรวดเร็ว
หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการทำ SEO ที่ดีคือการเพิ่มและปรับปรุงเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง WordPress มีระบบที่ทำให้การเพิ่มเนื้อหาใหม่ การแก้ไขบทความเดิม และการจัดการหน้าต่างๆ ทำได้ง่าย ทำให้คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเพิ่มความถี่ในการอัปเดต ซึ่งช่วยให้อันดับ SEO ของคุณเพิ่มขึ้นตามเวลาที่ผ่านมา
4. การปรับปรุงประสิทธิภาพและความเร็วเว็บไซต์
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการจัดอันดับ SEO WordPress มีปลั๊กอินมากมายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ เช่น WP Rocket หรือ W3 Total Cache ซึ่งช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าและทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการใช้เทคโนโลยี AMP (Accelerated Mobile Pages) ที่ช่วยให้การแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือเร็วขึ้นอีกด้วย
5. โครงสร้าง URL ที่เป็นมิตรกับ SEO
WordPress อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับแต่งโครงสร้าง URL ให้เรียบง่ายและเหมาะสมต่อ SEO ได้ เช่น การใช้ permalink ที่มีคีย์เวิร์ดสำคัญซึ่งทำให้ Google สามารถเข้าใจเนื้อหาในหน้าเว็บได้ง่ายขึ้นและเพิ่มโอกาสในการปรับอันดับให้ดีขึ้น
6. รองรับการทำ Responsive Design
ปัจจุบันนี้ การทำเว็บไซต์ให้รองรับการแสดงผลในหลากหลายอุปกรณ์โดยเฉพาะบนมือถือ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ SEO WordPress มีธีมมากมายที่รองรับ Responsive Design ทำให้เว็บไซต์ดูดีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนทุกอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google
7. ความสามารถในการใช้ Schema Markup
Schema Markup หรือการใช้โครงสร้างข้อมูล (Structured Data) เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ปรากฏบน Rich Snippets บนหน้าผลการค้นหา WordPress มีปลั๊กอินที่ช่วยเพิ่ม Schema Markup อย่างง่ายดาย เช่น Schema Pro ที่ช่วยทำให้เนื้อหาของคุณโดดเด่นมากขึ้นในสายตาของ Google
8. การรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์
เว็บไซต์ที่มีความปลอดภัยสูงย่อมได้รับการยอมรับจาก Google มากกว่า WordPress มีปลั๊กอินด้านความปลอดภัยหลายตัว เช่น Wordfence และ iThemes Security ที่ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งส่งผลดีต่อ SEO โดยตรงเพราะ Google มักจะให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีการรักษาความปลอดภัยที่ดี
สรุป
การใช้ WordPress สำหรับการสร้างเว็บไซต์สามารถช่วยเพิ่มอันดับ SEO ของคุณได้จริง หากคุณใช้เครื่องมือและปลั๊กอินที่มีอยู่ให้ถูกต้องและปรับปรุงเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง การออกแบบโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เหมาะสม การปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้กลยุทธ์ SEO ที่ดีผ่าน WordPress สามารถช่วยให้คุณได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของ Google
จากข้อมูลเหล่านี้แม้ในเชิงทฤษฎีการทำเว็บไซต์ด้วย WordPress อาจไม่ได้แตกต่างจากการใช้เครื่องมืออื่น ๆ มากนักหากมองเฉพาะมุมของการสร้างเว็บ แต่ถ้าเจาะลึกลงไปพร้อมลองปฏิบัติจริงจะพบว่าทาง WordPress เองก็มีตัวช่วยในหลายด้านที่พร้อมสนับสนุนเว็บของคุณติดอันดับ SEO ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม